วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2552

สิทธิเด็กคืออะไร

" สิทธิ " หมายถึง
ทุกสิ่งที่ยุติธรรม และเป็นสิ่งเฉพาะตัวของบุคคล ที่มีหรือมีความสามารถที่จะมี

" สิทธิเด็ก " เป็นสิทธิสากล (Universal Rights) และเป็นสิทธิเด็ดขาด (Absolute Rights) ที่ต้องได้รับการรับรองและคุ้มครอง อนุสัญญาฯ ฉบับนี้ไม่ได้ใช้เพื่อการเรียกร้องสิทธิเด็ก แต่ใช้เพื่อการพัฒนาเด็กทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม สติปัญญา ให้เจริญเติบโตรอบด้านเต็มศักยภาพ และไม่เลือกปฏิบัติด้วยการผนึกกำลังร่วมกันในทุกสถานบันทั่งโลก

ไม่เลือกปฏิบัติ ทุกเชื้อชาติ ศาสนา สถานะทางสังคม วรรณะ เพศ ผิด

อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก เป็นผลมาจากการทำงานของคณะกรรมาธิการด้านสิทธิมนุษชนขององค์การสหประชาชาติ และได้ประกาศใช้ครั้งแรกในปีพุทธศักราช 2533 และประเทศไทยได้ลงนามเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2535 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 26 เมษายน พุทธศักราช 2535

อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิ มีทั้งสิ้น 54 ข้อ โดย 40 ข้อแรก เป็นสาระสำคัญด้านสิทธิขั้นพื้นฐานของเด็ก 4 ประการ 14 ข้อหลัง เป็นส่วนที่เกี่ยวกับกระบวนการพันธกรณีที่ระบุไว้

เด็กในความมุ่งหมายของอนุสัญญานี้ หมายถึง มนุษย์ทุกคนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ยกเว้นผู้ที่แต่งงานถูกต้องตามกฎหมายของประเทศ


สิทธิที่จะมีชีวิตรอด
(Right of Survival)
ครอบคลุมถึงสิทธิของเด็กที่จะมีชีวิต และสิทธิที่จะมีมาตรฐานความเป็นอยู่อย่างเหมาะสม อันรวมถึง ที่อยู่อาศัยโภชนาการและยารักษาโรค
- สิทธิในการมีชีวิตรอดและส่งเสริมชีวิต
- ได้รับโภชการที่ดี
- ได้รับความรักความเอาใจใส่จากครอบครัวและสังคม
- ได้รับการบริการด้านสุขภาพ
- การให้ทักษะชีวิตที่ถูกต้อง
- การให้ที่อยู่อาศัยและการเลี้ยงดู

สิทธิที่จะได้รับการพัฒนา (Right of Development)
ครอบคลุมถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่เด็กมีความต้องการจะพัฒนาตนเองให้เต็มศักยภาพเช่น สิทธิที่จะได้รับการศึกษา การเล่น การพักผ่อนหย่อนใจ มีกิจกรรมด้านวัฒนธรรม เข้าถึงข้อมูลและมีเสรีภาพทางความคิด สติปัญญาและศาสนา
- ได้รับการศึกษาทั้งใน/นอกระบบ
- เข้าถึงข่าวสารที่เหมาะสม
- เสรีภาพในความคิด มโนธรรม และศาสนา
- พัฒนาบุคลิกภาพ ทั้งทางสังคมและศาสนา
- พัฒนาบุคลิกภาพ ทั้งทางสังคมและจิตใจ
- พัฒนาสุขภาพร่างกาย

สิทธิที่จะได้รับการคุ้มครอง (Right of Protection)
ครอบคลุมสิทธิทุกประการที่จะปกป้องคุ้มครองเด็ก จากการถูกล่วงละเมิดทุกประเภท การทอดทิ้งและการบ่อนทำลาย เช่น การดูแลเด็กที่อพยพเป็นกรณีพิเศษ ปกป้องจากการถูกทรมาน การล่วงละเมิดในระบบการศาล เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งที่ใช้แรงงานเด็ก ยาเสพติด และการล่วงละเมิดทางเพศ
- การคุ้มครองจากการเลือกปฏิบัติ
- การล่วงละเมิด การทำร้าย การกลั่นแกล้งรังแก
- การถูกทอดทิ้ง ละเลย
- การลักพาตัว
- การใช้แรงงานเด็ก
- ความยุติธรรมต่อผู้เยาว์
- การเอารัดเอาเปรียบทางเพศ

สิทธิที่จะมีส่วนร่วม (Right of Participation)
ให้ สิทธิแก่เด็กที่จะมีบทบาทในชุมชนและชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นทุกประการ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของตนเอง เพื่อให้สามารถเข้าสังคมสโมสรได้อย่างสงบสุข เพิ่มโอกาสในการมีส่วนร่วม เพื่อเป็นผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบในอนาคต
- แสดงทัศนะของเด็ก
- เสรีภาพในการติดต่อข่าวสารข้อมูล
- มีบทบาทในชุมชน
- แสดงความคิดเห็นในเรื่องที่มีผลกระทบต่อเด็ก

  1. เด็กควรจะได้รับการเลี้ยงดูจากผู้ปกครอง บุคคล หรือครอบครัว ที่ให้ความรักความเข้าใจ ซึ่งถือเป็นพื้นฐานของพัฒนาการทุกด้านของเด็ก
  2. เด็กควรได้รับอาหารอย่างน้อยที่สุดตามความเหมาะสมแก่ร่างกายของเขาและเธอ
  3. ควรมีการส่งเสริมสุขภาพและพัฒนาการของเด็ก
  4. เด็กควรมีที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม
  5. เด็กควรได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นอย่างน้อย
  6. เด็กควรได้รับการพัฒนาให้มีความสุขกับชีวิต และรักษาเอกลักษณ์และมรดกของชาติไว้
  7. เด็ก ควรได้รับการความรู้และการฝึกอบรมเพื่อเป็นการเตรียมสู่การประกอบอาชีพตาม ความเหมาะสมกับ ทัศนคติ ความสามารถและความสนใจของเขาและเธอ
  8. เด็กควรได้รับโอกาส และสามารถแสดงความคิดเห็นของเขาและเธอ
  9. เด็กควรได้รับการบริการขั้นพื้นฐานจากทั้งภาครัฐและเอกชน
  10. เด็กควรจะมีโอกาสรับรู้และปกป้องสิทธิและประโยชน์

2466 สิทธิเด็กได้รับการยอมรับจาก สมาพันธ์เซฟเดอะชิลเดร็นนานาชาติ
2467 สิทธิเด็กได้รับการยอมรับจาก สันนิบาตชาติ
• ถือว่าเป็นการประกาศ “สิทธิเด็ก” ครั้งแรกของโลก
2501 สมัชชาแห่งสหประชาชาติ รับรองการประกาศ สิทธิมนุษยชนทั่วโลก

2502

กลุ่มสมัชชา สหประชาชาติ รับรองการประกาศใช้สิทธิเด็กครั้งที่สอง
• คณะกรรมาธิการว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เริ่มร่าง “อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก”
2522 เป็นปีเด็กสากลมีการประชาสัมพันธ์ ประกาศสิทธิเพื่อเด็ก 10 ประการ
2532 ร่างอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กสำเร็จ*อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กได้รับการรับรองโดยสมัชชาแห่งสหประชาชาติ
2533 ประเทศไทยลงนามรับสัตยาบัน “อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก”
2535 อนุสัญญามีผลบังคับใช้ในประเทศไทย
ต้องรายงานผลการดำเนินงาน 2 ปีหลังจากนั้นและทุกๆ 5 ปีหลังจากนั้น

3 ความคิดเห็น: